(3 พ.ย.65) นักข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าล่าสุด ในกรณีเกิดเหตุคนร้ายเมายาบ้า คือ นายธานินทร์ อายุ 32 ปี เป็นชาวบ้านหนองปลาดุก ตำบลบ้านผึ้ง อ.เมือง จังหวัดนครพนม เสพยาจนประสาทหลอน โวยวายอ้างว่าครูสอนนักเรียนจนทำให้เสียงดัง เพราะว่ามีบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียน จนก่อเหตุบุกเข้าไป ทำร้ายร่างกายชกต่อยครู ผู้เสียหาย คือ นางไสว ภักดีล้น อายุ 43 ปี ครูประจำชั้น ป. 1/2 กำลังสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก หมู่ 22 ตำบลบ้านผึ้ง อ.เมือง จังหวัดนครพนม ขณะสอนนักเรียนชั้น ป.1/2 บนชั้น 2 ในอาคารเรียนของโรงเรียน

โดยครูผู้เสียหาย พยายามปิดประตูแต่ว่าไม่ทัน ก่อนที่คนร้ายจะเดินเข้าไปชกต่อยที่ใบหน้า 2 ครั้ง
ก่อนเดินหลบหนีไป พร้อมกับโวยวายระบุว่า สอนนักเรียนเสียงดัง เพราะว่าทางครูผู้สอนโดยใช้เครื่องขยายเสียงขนาดเล็กสอนนักเรียน อีกทั้งเชื่ออีกว่า คนก่อเหตุเกิดประสาทหลอน ทำให้ไม่พอใจ และก่อเหตุไม่คาดคิดขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังพบว่า ผู้ก่อเหตุเคยก่อคดีทำร้ายร่างกายครู โดยใช้อาวุธเป็นฉมวกแทง ครูชายคนหนึ่ง เมื่อปี 2558
จนกระทั่งถูกจับกุมดำเนินคดี และถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 9 เดือน พึ่งจะพ้นโทษมาได้ประมาณ 3 ปี จากนั้นมาเมื่อปี 2562 ก่อเหตุเป็นครั้งที่2 พยายามเข้าทำร้ายร่างกายชกต่อยครู คือ นางไสว ภักดีล้น อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นน้าสาว แต่ก็ไม่มีการดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย จนกระทั่งครั้งล่าสุดมาก่อเหตุซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 3 จึงทนไม่ไหว เข้าแจ้งความดำเนินคดี ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม
ภายหลัง ทางด้าน พันตำรวจเอกณัชวิชญ์ ราชแก้ว ผู้กำกับสภ.เมืองนครพนม ได้ประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่ปิดล้อมติดตาม จับกุมคนร้ายได้ หลังหนีกบดานในพื้นที่ใกล้บ้านพัก พร้อมกับควบคุมมาสอบสวนดำเนินคดี ใน 3 ข้อหา มี บุกรุกสถานที่ราชการ ใช้กำลังประทุษร้ายคนอื่น และเสพยาเสพติดยาบ้า
ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ก่อเหตุสารภาพที่ทำไปเพราะเสพยาบ้า เกิดประสาทหลอน นอกเหนือจากนี้จะได้นำร่อง ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรากรป้องกัน การก่อเหตุร้ายของบุคคลไม่หวังดี และประสานชุมชนตรวจสอบ คัดกรอง ผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติดในทุกชุมชนหมู่บ้าน เป็นการป้องกันการฉวยโอกาสก่อเหตุซ้ำซ้อน
ด้าน นางไสว ภักดีล้น อายุ 43 ปี ครูประจำชั้น ป. 1/2 โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก หมู่ 22 ตำบลบ้านผึ้ง อ.เมือง จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุขณะตนสอนนักเรียนชั้น ป.1/2 ได้มี นายธานินทร์ อายุ 32 ปี คนร้าย และยังมีฐานะเป็นหลานชาย แต่ก็ยอมรับไม่เคยมีปัญหาที่จะเป็นชนวนเหตุให้มาทำร้ายตน แต่คนร้ายมีเจตนาที่จะทำร้ายครู ในโรงเรียน เพราะอ้างว่าไม่พอใจที่สอนนักเรียนเสียงดังเกินไป แล้วก็เคยก่อเหตุมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ได้เดินขึ้นมาบนชั้น2ของตึก และบุกเข้าไปในห้องเรียน
โดยตนไม่สามารถปิดประตูห้องเรียนได้ทัน ส่วนครูห้องเรียนอื่น ๆ ที่ทำการสอน ได้ปิดประตูได้ทัน
และด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยนักเรียน ไม่คิดว่าคนร้ายจะเดินเข้ามาชกใบหน้าถึง 2 ครั้ง จนใบหน้าฟกช้ำและปากแตก ในช่วงเกิดเหตุยอมรับหวาดกลัว แต่ห่วงที่สุดก็คือ กลัวคนร้ายทำร้าย นักเรียน 14-15 คน ที่อยู่ในชั้นเรียน จึงตะโกนบอกเด็กให้หลบใต้โต๊ะ
ทำให้เด็กเห็นเหตุการณ์เกิดอาการหวาดกลัว ร้องไห้ระงมทั้งชั้นเรียน สงสารมากๆ มารู้ภายหลังว่าตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ดีใจมากๆ อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากให้วางมาตรการดูแลป้องกัน ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายมากกว่านี้
ส่วน นางศรีจันทร์ อายุ 61 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าลูกชายของตนเองนั้นติดยาเสพติดเสพยาบ้ามาเป็นเวลา 10 ปี ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีนิสัยก้าวร้าว แต่ในช่วงหลังเริ่มมีอาการโหวกเหวกโวยวาย เวลาขอเงินไม่ได้ เริ่มก้าวร้าวข่มขู่ตน ว่าจะทำลายบ้านพัก
ตนได้พยายามสั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนแต่ก็ไม่เชื่อฟัง เคยแจ้งตำรวจฝ่ายปกครองมานำตัวไปบำบัดฟื้นฟู ประมาณา 1 – 2 เดือน สุดท้าย ก็เป็นเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น
ส่วนตนมีลูกชาย 2 คน คนติดยาเป็นลูกชายคนโต จนกระทั่งเคยก่อเหตุทำร้ายครู ในโรงเรียนแห่งนี้ มาก่อน จนถูกดำเนินคดีติดคุกประมาณเกือบ 3 ปี พอพ้นโทษออกมา ได้ประมาณ 3 ปี คิดว่าจะกลับใจ แต่สุดท้ายมาก่อเหตุซ้ำอีก พยายามพูดคุยหาทางแก้ไขปัญหา ประสานทุกฝ่ายมาช่วยเหลือแต่ก็ไม่สำเร็จ
อยากบอกให้ลูกชายสำนึกผิดแต่ก็ไม่ยอมรับฟัง สุดท้ายตกใจมากมาก่อเหตุทำร้ายคนอื่นอีก อยากให้มอบตัวรับผิดตามที่ได้กระทำลงไป และตนไม่ขอต่อสู้คดี ให้รับกรรมไปตามกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง